การกบฏของกองทัพเรือในปี 1935: ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

 การกบฏของกองทัพเรือในปี 1935: ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

เหตุการณ์การกบฏของกองทัพเรือในปี ค.ศ. 1935 เป็นหนึ่งในห้วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์บราซิล หากจะกล่าวอย่างกว้างๆ การกบฏนี้เป็นการปะทะกันระหว่างสองฝ่ายที่มีอุดมการณ์ตรงข้ามกัน ในด้านหนึ่งคือกลุ่มผู้สนับสนุน chế độ獨裁 และการปกครองแบบ authoritarian ที่นำโดยประธานาธิบดีGetúlio Vargas ซึ่งขึ้นสู่อำนาจในปี ค.ศ. 1930 อีกด้านหนึ่งคือกลุ่มนายทหารที่ต้องการเห็นประเทศบราซิลเป็นประชาธิปไตยที่มีระบอบการปกครองแบบ republican

ความไม่พอใจของกองทัพเรือเริ่มขึ้นหลังจาก Vargas ออกประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ในปี ค.ศ. 1934 รัฐธรรมนูญฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างอำนาจของประธานาธิบดี และขยาย権 hạn ของผู้บริหาร รวมถึงการลดบทบาทของสภาและรัฐบาลท้องถิ่นลงอย่างเห็นได้ชัด

นายทหารหลายคนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดความมั่นคง และการดำรงอยู่ของระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ในเดือน กรกฎาคม ค.ศ. 1935 พวกเขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อต้าน Vargas โดยริเริ่มการกบฏ

การกบฏถูกนำโดยนายพลLuís Prestes และมีการสนับสนุนจากกลุ่มทหารและพลเรือนจำนวนหนึ่ง การสู้รบระหว่างกองกำลังของกบฏกับกองทัพของ Vargas พบกันในหลายๆ เมืองใหญ่ของประเทศ รวมทั้งกรุงริโอเดจาเนโรและเมืองเซาเปาลู

อย่างไรก็ตาม การกบฏของกองทัพเรือถูกปราบปรามอย่างรวดเร็วโดย Vargas และผู้สนับสนุนของเขา ความพ่ายแพ้ของกบฏนำไปสู่การล้างแค้นที่โหดร้าย กองกำลังของ Vargas จับกุมและประหารนายทหารที่เกี่ยวข้องกับการกบฏ

ผลกระทบของการกบฏ

ผลกระทบ รายละเอียด
การเสริมสร้างอำนาจของ Vargas การปราบปรามการกบฏทำให้ Vargas มีอำนาจเหนือประเทศมากขึ้น
ระบอบเผด็จการที่เข้มงวด บราซิลกลายเป็นรัฐเผด็จการที่ปกครองโดย Vargas และพรรคของเขา
การจำกัดเสรีภาพ เสรีภาพของสื่อ 언론 และการแสดงความคิดเห็นถูกจำกัดอย่างมาก
ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม ระบอบเผด็จการทำให้ความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเพิ่มขึ้น

การกบฏของกองทัพเรือในปี ค.ศ. 1935 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ทางการเมือง และความปรารถนาของประชาชนชาวบราซิลในการมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ ในขณะที่ Vargas สามารถรักษาอำนาจได้ การกบฏนี้ก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และความยุติธรรมในบราซิล

แม้ว่าการกบฏจะล้มเหลวในการโค่นล้ม Vargas แต่ก็ปลุกระดมจิตสำนึกของประชาชนชาวบราซิลเกี่ยวกับความสำคัญของเสรีภาพและสิทธิพลเมือง การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในบราซิลยังคงดำเนินต่อไป และนำไปสู่การกลับมาปกครองแบบ dân chủ ในปี ค.ศ. 1945

สำหรับนักเรียนประวัติศาสตร์ สาระสำคัญของเหตุการณ์นี้ไม่ได้อยู่ที่การแพ้ร้ายแรงของกบฏเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทเรียนที่ได้จากการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และความยุติธรรมอีกด้วย การกบฏของกองทัพเรือในปี ค.ศ. 1935 เป็นตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ และความกล้าหาญในการต่อต้านอำนาจเผด็จการ

แม้ว่าประวัติศาสตร์มักจะบันทึกชัยชนะของผู้มีอำนาจ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามบทบาทและความสำคัญของผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อถือ